การทำหมันในสัตว์เลี้ยง
คุณเจ้าขอหลายๆท่านที่มีสัตว์เลี้ยง คงเคยได้ยินเกี่ยวกับการทำหมันมากันบ้างแล้ว วันนี้แอดมินจะมาพูดถึงเรื่องการทำหมันในสัตว์เลี้ยงถึงข้อดีข้อเสีย และเราควรทำหมันกับน้องๆสัตว์เลี้ยงของเราอีกหรือไม่ไปรู้พร้อมๆกันเลยค่ะ
ประโยชน์ของการทำหมันมีอะไรบ้าง
- เพื่อควบคุมจำนวนประชากรของสุนัขและแมวที่เกิดขึ้นโดยไม่พึงประสงค์
- เพื่อลดพฤติกรรมที่เกิดจากฮอร์โมนเพศ เช่น การหนีออกนอกบ้านจากการติดสัด พฤติกรรมการร้องหง่าวของแมวเพศเมียอาจเกิดต่อเนื่อง ซ้ำ ๆ จนทำให้สุขภาพร่างกายแย่ลง ส่วนการทำหมันแมวตัวผู้ยังลดความก้าวร้าว ลดการแสดงออกของความเป็นเจ้าของ เช่น การปัสสาวะตามที่ต่างๆ เป็นต้น
- ลดโอกาสเกิดโรคที่เกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ ตัวเมีย การทำหมันในสุนัขหรือแมวเพศเมีย จะป้องกันโรคมดลูกอักเสบ ลดโอกาสเกิดภาวะท้องเทียม
ลดอุบัติการณ์การเกิดเนื้องอกเต้านมได้ โดยเฉพาะหากทำหมันก่อนการเป็นสัดครั้งแรก ตัวผู้ การทำหมันจะช่วยลดความเสี่ยงของเนื้องอกอัณฑะและลดอุบัติการณ์ของโรคต่อมลูกหมาก ลดโรคที่มักจะติดในแมวที่มักจะติดจากการต่อสู้กัน เช่น หนองจากการกัดของแมว, ไวรัสภูมิคุ้มกันบกพร่องแมว FIV เป็นต้น - ในสุนัขหรือแมวตัวผู้ที่มีภาวะทองแดง หรือไข่ไม่ตกลงถุงอัณฑะควรทำหมัน เพราะนอกจากที่หากเขามีลูก ลูกมีโอกาสจะมีภาะวะทองแดงด้วยแล้วนั้น เนื่องจากลูกอัณฑะที่ไม่ตกมีแนวโน้มที่จะเป็นเนื้องอกหรทอมะเร็งได้
การทำหมันมีผลเฉพาะต่อพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเพศเท่านั้น ไม่ใช่พฤติกรรมที่ได้รับมาทางพันธุกรรม พฤติกรรมหรือการเรียนรู้
นอกจากนี้การทำหมันบางครั้งก็เป็นการผ่าเพื่อรักษา เช่น โรคมดลูกอักเสบ โรคเนื้องอกหรทอมะเร็งเต้านม โรคเนื้องอกช่องคลอด โรคไส้เลื่อนบริเวณทวารหนัก โรคต่อมลูกหมาก เนื้องอกบริเวณทวารหนัก และโรคเบาหวานในสุนัขเพศเมียได้
อายุเท่าไหร่ที่เราควรพาสัตว์เลี้ยงไปทำหมัน
สุนัขหรือแมวเพศผู้ สัตวแพทย์มักจะแนะนำให้มำหมันน้องๆเมื่อมีอายุ 1 ปีขึ้นไปค่ะ ส่วนในสุนัขหรือแมวตัวเมียสัตวแพทย์มักจะแนะนำให้ทำหมันก่อนการเป็นสัดครั้งแรก หรือช่วงอายุ 6 เดือนขึ้นไปค่ะ สัตว์เลี้ยงทุกตัวที่จะผ่าตัดทำหมันควรได้รับการตรวจร่างกายก่อนการผ่าตัด เพื่อประเมินสุขภาพของสัตว์เลี้ยงว่าไม่มีปัญหาใดๆ ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการใช้ยาสลบ และนอกจากนี้การตรวจร่างกายของสัตวแพทย์ยังเป็นการยืนยันว่าลูกอัณฑะทั้งสองข้างได้ตกลงมาในเพศผู้และเพศเมียไม่ได้อยู่ในระยะการเป็นสัดทั้งในสุนัขและแมว ทั้งนี้ สัตวแพทย์จะแนะนำให้กระตุ้นวัคซีนในปีแรกให้ครบก่อน ก่อนที่จะวางแผนทำหมันค่ะ
เรียบเรียงโดย
สัตวแพทย์หญิงนริสา พลอยแก้ว
ผู้จัดการสัตวแพทย์ โรงพยาบาลสัตว์เมตตา